วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ ลายจุดกากเพรช

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บลูกไม้ดำ

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ GOLD GLITTER

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ หัวใจปลายขาว

วิธีการถอด เล็บอคริลิก

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ 3D acrylic roses

ต่อเล็บอคิลิค ปลายขาว กากเพชร

ต่อเล็บอคิลิค ปลายกากเพชร

ต่อเล็บอคิลิค ปลายกากเพชร

ต่อเล็บอคิลิค ปลายขาว

สอนต่อเล็บ acrylic glitter with 3d flower

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ french bronzo

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ3D uv gel nails flower

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ 3D

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ3D Garden of roses

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ 3D

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ rose 3D

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ 3D uv gel

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ ลายน้ำม่วงขาว

ลายเล็บ ลายน้ำที่ปลาย สวยมาก

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บลายน้ำเขียว

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บลายน้ำสีเทา

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บไร่สี colourful glitter

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ woven fabric

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ dotted rainbow

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ Purple Gradient Design

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ Smiley Flower

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ Cute Chicken

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ Cupcake

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บพับเค้ก

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ Bee Nails

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ ผึ้งน้อย2

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ ผึ้งน้อย

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บกระต่าย

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บกุ๊กๆ

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บกระต่ายปลายแดง

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บกระต่าย

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บลายน้ำเงินแดง

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บลายน้ำชมพูขาว

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บลายน้ำแดงดำ

วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

สอนเพ้นท์เล็บ เพ้นท์เล็บเหมือนลายน้ำ

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บลายน้ำสีฟ้า

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บลายน้ำ

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บธงชาติอเมริกา


สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บลายจุดและดอกไม้

สอนเพ้นท์เล็บ ไร่สีด้วยฟองน้ำ

วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ Girls Generation SNSD

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บApple

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ Bunny

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ Animal

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ My Melody

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บวัวน้อย

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ ปลาวาฬ

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ Thanksgiving Lace

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ Beautiful Celtic Prom

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ Opal Twist

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บลายจุดโทนเขียว

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บPurple Checkered

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ Korean Pop

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บหลากสี

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บเส้นขาวดำ

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บ Minnie Mouse

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บสตอเบอรี่

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บPopcorn

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บStrawberry

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บข้าวปั้น

สอนเพ้นท์เล็บ ลายเล็บหมีแพนด้า

วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เตือน ผ่าตัดเพิ่มความสูง เสี่ยงอัมพาต

ผ่าตัดเพิ่มความสูง

เตือน ผ่าตัดเพิ่มความสูง เสี่ยงอัมพาต (Lisa)

          ฝากคำเตือนมาสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการใช้วิธีผ่าตัดกระดูกเพิ่มความสูง

          เมื่อเร็ว ๆ นี้ พ.อ.ผศ.นพ.ดุษฎี ทัตตานนทน์ ผู้อำนวยการกองออร์โธปิดิคส์ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ออกมาชี้ว่าการผ่าตัดยืดกระดูกมักจะใช้รักษาผู้ป่วยจากอุบัติเหตุ พิการแต่กำเนิด หรือใช้รักษาโรคกระดูกติดเชื้อมากกว่า โดยเห็นว่า การผ่าตัดยืดกระดูกเพื่อความงามหรือเพิ่มความสูงนั้น เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น เนื่องจากเป็นการฝืนธรรมชาติ และมีค่าใช้จ่ายสูง หากกระทำโดยแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญหรือผู้ป่วยเองมีวิธีการดูและตัวเองไม่ดี โอกาสพลาดจะมีสูงมาก อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ทำให้เส้นประสาทไม่ทำงานและเป็นอัมพาตในที่สุด... ก็ขอให้คนที่สนใจ ชั่งน้ำหนักผลข้างเคียงให้ดีก็แล้วกัน



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

5 เทคโนโลยี เพื่อหุ่นสวยไร้ขอบเขต

ลดความอ้วน



5 เทคโนโลยีเพื่อหุ่นสวยไร้ขอบเขต (Lisa)


Carboxy

        การฉีดในระดับไมโครที่พาคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและการผลิตคอลลาเจนโดยเมื่อฉีดแล้วผิวจะคิด ว่ามันขาดออกซิเจน จึงสั่งให้เลือดไหลเวียนเร็วขึ้น ทำให้ออกซิเจนและสารอาหารต่าง ๆ มายังบริเวณดังกล่าวด้วย

ขั้นตอน

        ใช้เข็มขนาดเล็กฉีดคาร์บอนไดออกไซด์ลงไปในชั้นไขมัน ในแต่ละเข็มอาจจะรู้สึกเหมือนผึ้งต่อย การรักษาต่างบริเวณก็อาจจะทำให้รู้สึกแตกต่างกันออกไป แต่ละทรีตเมนต์อาจใช้เวลา ประมาณ 15-30 นาที เสร็จแล้วอาจมีอาการบวมแดงและช้ำในบริเวณที่ฉีด ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น แต่เซลลูไลต์ที่หายไปอาจกลับมาใหม่ได้จึงอาจต้องทำซ้ำในอีก 6-12 เดือนให้หลัง

ผลการรักษา

        คุณควรจะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงภายในทรีตเมนต์แรก แต่โดยปกติแล้ว 6-12 ทรีตเมนต์จึงจะเห็นผลชัดเจน คุณควรทราบไว้ว่าวิธีนี้จะช่วยสร้างรูปร่างของคุณใหม่ แต่การคงรักษารูปร่างนั้นไว้ ขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง

ข้อดี

        มีผลข้างเคียงน้อยมาก

ข้อเสีย

        ถูกน้ำไม่ได้ 4 ชั่วโมงหลังทรีตเมนต์ อาจมีอาการบวม แดง ช้ำและชาบริเวณที่ฉีด

เหมาะกับใคร

        เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเริ่มจุดใหม่ของชีวิต หรือคนที่ต้องการลดไขมันเฉพาะอย่างรวดเร็วและลดเซลลูไลต์ คนที่ไม่ควรทำก็คือคนที่มีโรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจโรคเลือด และคนที่มีโรคประจำตัวต่าง ๆ

Vaser Lipo Selection

        ใช้คลื่นอัลตร้าโซนิก (คลื่นเสียง) เพื่อแยกกลุ่มอนุภาคของไขมัน ทำให้สามารถดูดไขมันเฉพาะส่วนได้ง่ายยิ่งขึ้น สามารถทำได้เกือบทุกบริเวณของร่างกายรวมถึงหน้าท้อง หน้าอก หลัง แขน ขาทุกส่วน และที่อื่นๆ

ขั้นตอน

        ในขั้นแรกแพทย์จะฉีดน้ำเกลือพิเศษไปยังบริเวณที่ต้องการจะลด จากนั้น จะใช้คลื่นอัลตร้าซาวนด์ทำให้เซลล์ไขมันละลายแล้ว รวมกับน้ำเกลือที่ฉีดไว้ จากนั้นก็จะทำการดูดไขมันออกโดยใช้ท่อ แต่จะเป็นไปอย่างนุ่นนวลและเกิดแผลน้อยที่สุด อาจใช้เวลาตั้งแต่ 1-3 ชั่วโมง

ผลการรักษา

        แตกต่างกันไปตามแต่ละคน ขึ้นอยู่กับปริมาณของไขมันที่เอาออก จำนวนบริเวณที่ทำ และปัจจัยอื่นๆ หลายคนเห็นผลทันทีหลังจากทำ แต่ผลจะเห็นได้ชัดเป็นที่สิ้นสุด ประมาณ 3-6 เดือน ทั้งนี้ คุณต้องคุยกับหมอให้ชัดเจนว่าคุณมีเป้าหมายในการทำอย่างไร และต้องจำไว้ว่านี้ไม่ใช้วิธีการลดน้ำหนัก

ข้อดี

        ค่อนข้างปลอดภัยเพราะจะมุ่งเน้นกำจัดแต่ไขมันโดยไม่ยุ่งกับส่วนอื่นๆ อย่างเช่น เส้นประสาท เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน หรือหลอดเลือด ใช้เวลาน้อยกว่าการดูดไขมัน และไม่ทำเกิดแผลเป็นด้วย

ข้อเสีย

        การทำเวเซอร์ต้องทำซ้ำ ๆ ทำให้เสียค่าใช้จ่ายสูง ในบางครั้งการกำจัดไขมันอาจไม่ทำให้เห็นผลชัดเจนนัก

เหมาะกับใคร

        เวเซอร์ไลโปเหมาะกับคนที่ไม่ได้อ้วนนัก และต้องการเพียงแค่กระชับรูปร่างให้เห็นส่วนเว้าโค้งมากขึ้นเหมาะสำหรับ ผู้หญิงที่มีไขมันส่วนเกินหลงเหลือมาจากตอนตั้งครรภ์ ควรมี BMI น้อยกว่า 30 และหนักไม่เกิน 10-15 กิโลกรัมจากน้ำหนักในอุดมคติ

Thermage

        ใช้คลื่นวิทยุส่งผ่านลงไปยังชั้นผิว ทำให้เกิดความร้อนที่จะไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ให้เกิดขึ้นอย่างต่อ เนื่อง ส่งผลให้ผิวค่อยๆ ยกกระชับและเนียนเรียบ

ขั้นตอน

        ในระหว่างทรีตเมนต์ คุณจะรู้สึกว่าใต้ผิวหนังร้อนเนื่องจากมีการส่งพลังงาน แต่ความรู้สึกร้อนจะบ่งชี้ว่าคอลลาเจนได้รับความร้อนในระดับที่ทำให้ ผิวสามารถยกกระชับได้การรักษาจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง

ผลการรักษา

        เพียงทรีตเมนต์เดียวก็จะเห็นผลได้ชัดเจน จากนั้น ผิวจะค่อยๆ กระชับขึ้นในเวลา 2-6 เดือน จากนั้น ผลก็อาจอยู่ถึง 2 ปี

ข้อดี

        ค่อนข้างปลอดภัย ใช้เวลาน้อย ผลพลอยได้ก็คือผิวจะกระจ่างใสขึ้น เหมาะกับผิวทุกประเภทและทุกสีผิว

ข้อเสีย

        แม้จะไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง แต่บางรายอาจมีอาการปวด มีรอยช้ำ บวม หรือรู้สึกว่าผิวหนังไหม้ด้วย ในกรณีที่หายากจริงๆ อาจพบว่าสภาพผิวหนังไม่เรียบเนียนด้วย

เหมาะกับใคร

        คนที่ต้องการเพิ่มความกระชับให้ช่วงแขน ลำตัว หน้าท้อง เอว และสะโพก หรือต้องการขจัดริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณเท้าและช่วงขา

Ultrasound

        ใช้คลื่นอัลตร้าซาวนด์ส่งผ่านไปยังเซลล์ไขมันใต้ผิวหนัง เซลล์ไขมันจะหดตัวและขยายตัวอย่างรวดเร็วจนทำให้ก้อนไขมันแตกออกเป็นไขมัน เล็กๆ ที่ร่างกายสามารถขับถ่ายได้

ขั้นตอน

        ทาเจลเป็นอันดับแรก แล้ววางหัวนวดวนเบา ๆ บริเวณที่ต้องกำจัดไขมัน ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง

ผลการรักษา

        อาจจะเห็นผลได้เล็กน้อยตั้งแต่ทรีตเมนต์แรก 3 วัน แต่จะชัดเจนหลังจาก 4-5 ทรีตเมนต์ขึ้นอยู่กับปัญหา

ข้อดี

        ไม่มีผลข้างเคียง ไม่เจ็บ ไม่เป็นแผล ไม่ต้องทำบ่อย

ข้อเสีย

        ในระหว่างทรีตเมนต์อาจได้ยินเสียงจี๊ด ๆ ในหู น่ารำคาญ แต่ไม่เป็นอันตราย

เหมาะกับใคร

        เหมาะกับคนที่มีไขมันส่วนเกินที่กำจัดไม่ได้ด้วยการไดเอ็ตหรือออกกำลังกาย ไมเหมาะกับการทำในพื้นที่เล็กๆ เช่น ใต้คาง แก้ม และคนที่ต้องการลดความอ้วนอย่างมาก ห้ามคนที่ต้องใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจหรือคนที่เพิ่งผ่าตัด

Mesotberapy

        ใช้ตัวยา วิตามิน และสารอาหารต่าง ๆ ฉีดเข้าไปในผิวหนัง ชั้นกลางเพื่อกระตุ้นให้เกิดการขจัดเซลลูไลต์ ลดตีนกา ลดไขมันส่วนเกิน และกระชับผิวหนังหย่อนคล้อย

ขั้นตอน

        ใช้เข็มฉีดยาฉีดสารอาหารเข้าสู่ผิวชั้นกลางโดยตรง เพื่อให้กีดขวางการสะสมของไขมันและสลายไขมันที่สะสมไว้ อาจจะต้องฉีดซ้ำ 5-10 ทรีตเมนต์ กว่าจะเห็นผล

ผลการรักษา

        เนื่องจากการกำจัดไขมันประเภทนี้เป็นแบบที่ไม่รุนแรงผลจึงค่อยๆ ปรากฏ อาจเห็นได้ในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์จนถึงหลายเดือน

ข้อดี

        ไม่ใช่การผ่าตัดใหญ่ เพียงแค่ฉีดยาหนึ่งเข็ม (หรืออาจจะมากกว่านั้น) มีผลข้างเคียงน้อย เช่น บวมแดง แต่ในกรณีที่หายากอาจจะมีอาการภูมิแพ้ได้ และเป็นเพียงการกระตุ้นให้ร่างกายขจัดเซลลูไลต์ตามธรรมชาติ

ข้อเสีย

        ถ้าเทียบกับวิธีอื่นๆ เมโสเอราพีใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล (4-8 สัปดาห์หลังทรีตเมนต์) เนื่องจากร่างกายต้องการเวลาเพื่อกำจัดไขมัน นอกจานกี้ คนไข้บางรายอาจต้องทำหลายทรีตเมนต์กว่าจะเห็นผลชัดเจนด้วย

เหมาะกับใคร

        คนที่มองหาวิธีลดเซลลูไลต์บริเวณหน้าท้อง ใต้ท้องแขน ต้นขา รอยเหี่ยวย่น น้ำหนักส่วนเกิน และผิวที่หย่อนคล้อย แต่ไม่อยากผ่านมีดหมอ ไม่เหมาสำหรับคนที่ต้องการลดไขมันมากกว่า 7 กิโลกรัม




ขอขอบคุณข้อมูลจาก
 หนังสือ Lisa Vol.12 No.11 23 มีนาคม 2554

ลบรอยสัก ทำอย่างไร

ลบรอยสัก

ลบรอยสัก ทำอย่างไร
(สวยด้วยแพทย์)

           การลบรอยสักด้วยเลเซอร์เป็นหนึ่งในวิธีการลบรอยสักที่นิยมทำ เนื่องจากมีผลข้างเคียงต่ำ และผลที่ออกมาสามารถลบรอยสักได้มาก และกลับไปใกล้เคียงกับผิวหนังเดิม

           กลไกในการรักษา แพทย์ก็จะเลือกชนิดของเลเซอร์ให้เหมาะสมตรงกับสีของรอยสัก ซึ่งแต่ละสีก็จะมีความจำเพาะกับเลเซอร์แต่ละความยาวคลื่น ซึ่งแสงเลเซอร์ก็จะไปทำให้เม็ดสีในผิวหนังแตกออก และถูกขจัดออกทางระบบน้ำเหลือง, ขจัดออกทางผิวหนังตามมา

           การ ลบรอยสักจะทำทุก 3-4 อาทิตย์ต่อ 1 ครั้ง ส่วนจำนวนครั้งนั้นขึ้นอยู่กับเป็นรอยสักชนิดไหน ถ้าเป็นรอยสักโดยช่างสมัครเล่น (มักเป็นรอยสักสีเดียว เช่น สีดำ และรอยสักไม่ลึกมากนัก) ก็สามารถทำการลบออกได้ภายใน 6-8 ครั้ง ส่วนรอยสักโดยช่างอาชีพ (มักจะมีหลายสี เช่น แดง เขียว เหลือง ดำ สีแต่ละสีมีความคมชัดสูง และมีความลึกของเม็ดสีมากกว่า) ต้องใช้จำนวนครั้งในการลบมากกว่า อาจถึง 10 ครั้งขึ้นไป ส่วนผลลัพธ์ที่ออกมาในรอยสักจากช่างสมัครเล่น ผลลัพธ์จะดีกว่ารอยสักโดยช่างอาชีพ ซึ่งอาจจะยังมีรอยสักจาง ๆ หลงเหลืออยู่ที่ผิวหนังค่ะ

           ย่าง ไรก็ตาม อย่าได้ไปหลงเชื่อคำโฆษณาเกี่ยวกับน้ำยาลบรอยสัก ที่ว่ามีประสิทธิภาพและเห็นผลทันตา แล้วซื้อมาลบรอยสักเองนะคะ อาจเกิดแผลเป็น หรือไม่ก็เสียโฉมไปเลย ทำให้ต้องมาเวียนแก้ปัญหาในระยะยาวเสียสุขภาพจิตเปล่า ๆ



ข้อมูลจาก
นิตยสารสวยด้วยแพทย์

วิธีกำจัดเซลลูไลท์ อย่างรวดเร็ว

วิธีกำจัดเซลลูไลต์อย่างรวดเร็วและเห็นผล

Easy Ways to Get Rid of Cellulite (Lisa)


          ผิวที่ปุ่มป่ำเหมือนผลส้มคือปัญหาหนักใจของใครหลายคน มันเกิดมาได้หลายวิธี แต่การกำจัดด้วยตัวคุณเองอาจเป็นเรื่องยากไปสักนิด เราจึงนำวิธีกำจัดเซลลูไลต์อย่างรวดเร็วและเห็นผลมาฝาก เซลลูไลท์ก็คือเซลล์ไขมันที่รวมตัวกันอย่างหนาแน่น ซึ่งคนผอมก็มีได้โดยที่พันธุกรรม คือปัจจัยหลัก ในเด็กสาวอายุ 14 ก็เริ่มสังเกตได้แล้วว่าในอนาคตจะมีเซลลูไลต์รึเปล่า หรือไม่ก็ลองดูที่คุณแม่ หากคุณแม่มีเซลลูไลต์ เราก็น่าจะมีเช่นกัน โดยมีสาเหตุหลัก ๆ ดังนี้

 พันธุกรรม 

          นี่อาจทำให้เซลลูไลท์เป็นปัญหาหลักของหญิงสาว เนื่องจากเราได้รับมาจากแม่ และผู้หญิงกว่าร้อยละ 90 ก็มีเซลลูไลท์อยู่ไม่มากก็น้อย

 อาหารและน้ำ 

          การกินแอลกอฮอล์ อาหารสำเร็จรูป และกาเฟอีน ล้วนแต่ทำให้เซลลูไลท์ก่อตัว เนื่องจากสารพิษจากอาหารเหล่านี้จะถูกกักในเนื้อเยื่อไขมัน ส่วนการไม่ดื่มน้ำก็จะทำให้ร่างกายขับเซลลูไลท์ออกไปไม่ได้เช่นกัน

 สูบบุหรี่ 

          แท่งนิโคตินจะทำให้เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Connective Issue) เสียหาย ทำให้เซลลูไลท์ก่อตัวได้ง่ายและใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

 ยา 

          ยาบางชนิดนำไปสู่เซลลูไลท์ อย่างเช่น ยาลดน้ำหนัก ยานอนหลับ และยาขับปัสสาวะ รวมไปถึงยาคุมกำเนิดซึ่งอาจส่งเสริมการก่อตัวของเซลลูไลต์ได้เนื่องจากมี ฮอร์โมนเอสโตรเจน

 ไลฟ์สไตล์ 

          คนที่เฉื่อยแฉะจะมีการไหลเวียนโลหิตไม่ดีนัก ส่วนกล้ามเนื้อก็จะไม่ค่อยได้ใช้ทำให้เนื้อเยื่อเกี่ยวพันแข็งมากขึ้นจนผิว ขรุขระเป็นเปลือกส้มและเซลลูไลท์ได้ในที่สุด

 อดอาหาร 

          การไดเอ็ตด้วยการอดอาหารทำให้ร่างกายคิดว่ามันอยู่ในภาวะอดอยาก จึงพยายามบริโภคไขมันอิ่มตัวเพื่อสร้างเซลลูไลท์ไขมันเหล่านี้จะอุดตันอยู่ ในเส้นเลือดและตกค้างอยู่ในเนื้อเยื่อ ทำให้ของเสียไม่ถูกระบายออก

          HOW TO FIX

  Liposuction 

          การดูดไขมันแบบคลาสสิก ปัจจุบันไม่ได้โหดร้ายทารุณเหมือนเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เพราะเดี๋ยวนี้มีเทคนิคที่ทำให้มีการเสียเลือดน้อยมาก โดยแพทย์จะใช้ท่อขนาด 3-6 มิลลิเมตร สอดผ่านแผลขนาดเล็กเข้าไปได้ผิวหนังเพื่อกำจัดไขมันเฉพาะส่วน ข้อดีคือเห็นผลได้ชัดเจนและจะคงทนหากคุณกินอาหารดี ๆ และออกกำลังเป็นประจำ ข้อเสียก็คือ ต้องพักฟื้น อาจติดเชื้อ อาจมีแผลเป็น ผิวหย่อนคล้อย และหากแพทย์ไม่ชำนาญ ไขมันอาจถูกดูดมากหรือน้อยเกินไป ค่าใช้จ่ายประมาณ 25,000-65,000 บาทขึ้นไป แล้วแต่บริเวณ

  Zeltiq

          การใช้คลื่นความเย็นที่ -5 องศาเซลเซียส ทำให้เซลล์ไขมันทำลายตัวเอง จากนั้น ร่างกายของเราจะกำจัดเซลล์ที่ตายแล้วทางการขับถ่ายโดยธรรมชาติ ข้อดีก็คือเห็นผลภายในหนึ่งทรีตเมนต์และอาจคงอยู่ได้นานถึง 3 ปี โดยไม่ต้องห่วงโยโย่เอฟเฟ็กต์ แต่เหมาะสำหรับคนที่รูปร่างดีอยู่แล้วและต้องการกำจัดไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด เท่านั้น ในแต่ละครั้งอาจใช้เวลาแค่หนึ่งชั่วโมง ค่าใช้จ่ายประมาณ 40,000 บาท/บริเวณ

  Mesolipo 

          ขจัดเซลลูไลท์ หรือไขมันส่วนเกินด้วยการใช้ตัวยาซึ่งประกอบไปด้วยวิตามิน กรดอะมิโน และแร่ธาตุต่าง ๆ เข้าไปในผิวหนังชั้นกลาง หลังจากฉีดแล้วตัวยาจะกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการรักษาตัวเอง ใช้ได้กับหน้าท้อง เอว ต้นขา ต้นแขน สะโพก และคาง ผลข้างเคียงมีน้อยมากจนถึงไม่มีเลย แม้ว่าอาจมีรอยช้ำเล็กน้อยหลังจากทรีตเมนต์ บางคนอาจเห็นว่าผิวขาวใสมากขึ้นจากตัววิตามินด้วย อย่างไรก็ดี อาจเห็นผลได้ตั้งแต่ทรีตเมนต์ครั้งที่ 3 เป็นต้นไป สัดส่วนอาจลดลงในระหว่าง 2-6 นิ้ว ค่าใช้จ่ายประมาณ 8,500 บาท

  Carboxy 

          โดยหลักการคือการฉีดคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปยังใต้ผิวหนัง กระตุ้นการเผาผลาญและฆ่าเซลล์ไขมันบริเวณที่ฉีดจะตึง แสบ และอุ่นเล็กน้อย คุณจะรู้สึกถึงผลได้ตั้งแต่ทรีตเมนต์แรก แต่หลังจากทรีตเมนต์ที่ 3-4 จะเห็นได้ว่าร่างกายของคุณเริ่มปรับรูปร่างใหม่และมีเซลลูไลท์น้อยลงกว่า เดิม ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับรูปร่างตามธรรมชาติของคุณด้วย ผลข้างเคียงที่เห็นได้ชัดใน 24 ชั่วโมงแรกคืออาการบวมแดงและชา ข้อเสียก็คืออาจต้องทำทรีตเมนต์ทุก ๆ 6-12 เดือน เพื่อป้องกันไม่ให้เซลลูไลท์เกิดขึ้นอีกครั้ง ค่าใช้จ่ายประมาณ 1,000-1,200 บาทขึ้นไป




ขอขอบคุณข้อมูลจาก

กลูตาไทโอนที่ใช้ทำให้ผิวขาว... เป็นสารอันตรายหรือไม่?

 กลูตาไทโอนที่ใช้ทำให้ผิวขาว... เป็นสารอันตรายหรือไม่

กลูตาไทโอนที่ใช้ทำให้ผิวขาว... เป็นสารอันตรายหรือไม่?


          กลูตาไทโอน (glutathione) เป็น tripeptides ของกรดอะมิโน 3 ตัว คือ ซิสทีน (cysteine) กรดกลูตามิก (glutamic acid) และไกลซีน (glycine) ปกติร่างกายสามารถผลิตได้เองตามธรรมชาติ และยังได้จากอาหารหลายอย่าง เช่น โปรตีน นม ไข่ ผลอะโวคาโด สตรอเบอร์รี มะเขือเทศ ผักบรอกโคลี ส้มเกรปฟรุต และผักโขม

 หน้าที่หลักของกลูตาไทโอนมีอยู่ 3 ประการคือ ต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย และขจัดสารพิษ

          กลูตาไทโอนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจึงช่วยในแง่ชะลอความเสื่อมของร่างกาย เพราะอนุมูลอิสระจะวิ่งสะเปะสะปะไปชนเซลล์ต่าง ๆ ทำให้เกิดการบาดเจ็บและเสื่อมสภาพ มีผลในแง่เสริมภูมิต้านทานและยังช่วยให้ตับขจัดสารพิษออกจากร่างกาย

          กำลังมีงานวิจัยที่จะนำสารกลูตาไทโอนตัวนี้มารักษาโรคมะเร็ง โรคหัวใจ ข้ออักเสบ โรคพาร์กินสัน (ที่มีอาการมือสั่น ควบคุมการทรงตัวลำบาก) โรคตับ โรคไต โรคเอดส์ ภาวะเป็นหมันในเพศชาย และภาวะหูตึงจากเสียงดัง

 ยังไม่แนะนำให้สตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรรับสารตัวนี้โดยไม่ปรึกษาแพทย์

          สมาคม แพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทยให้ข้อมูลว่า ปัญหาของกลูตาไทโอนที่ควรระวังคือ การฉีดยาตัวนี้เข้าหลอดเลือดดำมีโอกาสแพ้ได้ มีรายงานในต่างประเทศว่าผู้ที่ได้รับการฉีดกลูตาไทโอนขนาดสูงที่ใช้กันอยู่ มีอาการช็อก ความดันต่ำ หายใจไม่ออก จนถึงขั้นเสียชีวิต และการฉีดนั้นมักให้วิตามินซีในขนาดสูงร่วมด้วย ซึ่งการฉีดวิตามินซีขนาดที่สูงและเร็วเกินไปอาจทำให้เกิดอาการมึนศีรษะคล้าย จะเป็นลมได้

          พบว่าการได้รับสารกลูตาไทโอนเป็นเวลานาน ๆ ทำให้เม็ดสีที่จอตาลดลงเสี่ยงต่อการมองเห็นได้ในอนาคต จึงจัดว่าเป็นสารที่อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงทางตา และการใช้สารกลูตาไทโอนในผู้ป่วยมะเร็งทำให้ประสิทธิภาพในการรักษาทางเคมีลด ลง



ข้อมูลจาก

ลอกหน้า ลอกผิว ต้องระวังอะไร






ลอกหน้า ลอกผิว ต้องระวังอะไร (หมอชาวบ้าน)

         หลายคนคงคุ้นเคยกับการไปลอกหน้า...ลอกผิวมาแล้ว แต่จะมีสักกี่คนที่ทราบว่า วิธีนี้ทำอย่างไร มีข้อควรระวังและข้อแทรกซ้อนอย่างไรบ้าง

         ที่ว่าลอกหน้าลอกผิวนั้น ความหมายในที่นี้คือการลอกผิวด้วยสารเคมี ก่อนลอกหน้าแพทย์จะประเมินดูลักษณะผิวเหี่ยวแก่จากแสงแดด และลักษณะสีผิว เลือกสารเคมีให้เหมาะสมกับสภาพผิว เช็ดไขมันที่ผิวหนังออกด้วยอะซีโทน อาจต้องป้องกันบริเวณที่ผิวบอบบาง เช่น ที่ริมฝีปาก ในรูจมูก ร่องแก้ม ขอบตา ด้วยการทาขี้ผึ้ง

ข้อบ่งชี้ของการลอกด้วยสารเคมี

         การลอกด้วยสารเคมีใช้รักษาโรคเนื้องอกของผิวหนังขั้นก่อนเป็นมะเร็ง (actinic keratosis) ผิวเหี่ยวแก่จากแสงแดด ภาวะสีผิวไม่สม่ำเสมอ แผลเป็นชนิดตื้น ผิวหนังอักเสบจากการฉายรังสี และสิว ใช้การลอกชนิดตื้นรักษาฝ้าซึ่งเป็นความผิดปกติของหนังกำพร้าส่วนบน เมื่อใช้ยาทารักษาฝ้าซึ่งยับยั้งการผลิตเม็ดสีแล้ว การลอกหน้าทำให้เซลล์ผิวหนังหลุดลอกออกไปเร็วขึ้น

         มีรายงานแสดงว่า การรักษาฝ้าด้วยการลอกหน้าชนิดตื้น ร่วมกับการใช้ยาทาฟอกสีมีประสิทธิภาพ และ ปลอดภัย ส่วนรอยโรคที่ลึกกว่านี้ เช่น รอยเหี่ยวย่นชนิดลึก หรือรอยย่นรอบปากที่เป็นมาก ต้องลอกหน้าชนิดลึก

         ส่วนรอยโรคที่ลึกปานกลาง (คืออยู่ในชั้นหนังแท้ส่วนบน) เช่น ผิวเหี่ยวแก่ที่เป็นน้อย ต้องการการลอกชนิดลึกปานกลาง

สารเคมีที่ใช้ลอกผิวหนัง

         สารเคมีที่ใช้ลอกผิวหนังชนิดตื้น เช่น กรดไทรคลอโรอะเซติก ความเข้มข้นร้อยละ 10-35 น้ำยาเจสเนอร์ กรดซาลิไซลิก ความเข้มข้นร้อยละ 20-30 และกรดอัลฟาไฮดรอกซี ความเข้มข้นร้อยละ 10-70

         สารเคมีที่ใช้ลอกผิวหนัง ชนิดปานกลาง นิยมใช้กรดไกลคอลิก และกรดไทรคลอโรอะเซติก ความเข้มข้นร้อยละ 35 น้ำยาเจสเนอร์ และกรดไทรคลอโรอะเซติก ความเข้มข้นร้อยละ 35

ข้อควรระวังก่อนลอกหน้าด้วยสารเคมี

         ก่อนลอกหน้าแพทย์จะซักประวัติและตรวจร่างกายดังนี้

         1. ประเมินลักษณะผิวเหี่ยวแก่จากแสงแดด ผู้ป่วยที่ยังมีสภาพผิวดี มีรอยเหี่ยวแก่จากแสงแดดน้อย มีการเปลี่ยนแปลงของสีผิวน้อย ไม่เหมาะจะลอกหน้าชนิดลึก เพราะก่อผลเสียมากกว่าประโยชน์ที่ได้ ถ้าจะลอกควรลอกชนิดตื้น ส่วนผู้ที่มีภาวะผิวแก่จากแสงแดดอย่างรุนแรง ผิวเหี่ยวย่นทั้งใบหน้าควรลอกชนิดลึก

         2. ประเมินลักษณะสีผิว ผู้ป่วยที่มีผิวสีน้ำตาลเข้มหรือผิวดำ ไม่เหมาะต่อการลอกหน้าชนิดปานกลางและชนิดลึก แต่อาจใช้การลอกหน้าชนิดตื้นได้

         3. ถ้ามีประวัติการผ่าตัดเสริมสวยใบหน้ามาก่อน ควรรอให้แผลหายสนิทจึงลอกหน้า และต้องระวังในผู้ที่เกิดแผลเป็นคีลอยด์ง่าย

         4. ในการลอกหน้าชนิดลึกด้วยฟีนอล ต้องระวังเพราะเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดปกติได้ แพทย์จะตรวจการทำงานของตับ ไต สุขภาพทั่วไปก่อนลอก และตรวจคลื่นหัวใจระหว่างการลอก

         5. ผู้ที่จะลอกหน้าต้องมีสุขภาพจิตดี

         6. ประวัติการใช้ยา ผู้ที่กินยาคุมกำเนิดไม่ควรลอกหน้า เพราะยาคุมทำให้เป็นฝ้าอยู่แล้ว จะยิ่งทำให้รอยคล้ำหลังลอกเข้มมากกว่าปกติ ส่วนผู้ที่กินยาต้านการเกิดลิ่มเลือด ไม่ควรลอกหน้าชนิดลึกเพราะมีเลือดไหล ซึมจากผิวที่ลอกได้

         7. ผู้ที่เคยเป็นเริมที่ใบหน้า แพทย์อาจให้ยาต้านไวรัสเริม 2 วันก่อนลอก และให้ต่ออีก 5 วันหลังลอก เพื่อลดการกำเริบของเริม

         8. ต้องระวังการลอกหน้าในผู้ที่กินยากรดวิตามินเอ อาจต้องหยุดยาครบ 6 เดือนจึงลอก นอกจากนั้นก็ต้องระวังผู้ที่ฉายรังสีมาก่อน เพราะทั้ง 2 กรณีนี้ทำให้มีรูขุมขนน้อยลง ทำให้กระบวนการสร้างผิวใหม่ที่เกิดจากรูขุมขนเป็นไปได้ยาก

ผลแทรกซ้อน

         การลอกด้วยสารเคมีทำให้เกิดผลแทรกซ้อนหลายอย่าง ได้แก่ ผิวเปลี่ยนสี รอยดำรอยไหม้ แผลเป็น การติดเชื้อแบคทีเรีย การกำเริบของเริม และผิวแดง มักจางหายไปใน 30- 90 วัน

         ถ้าเป็นมากแพทย์อาจให้ยาทาสเตียรอยด์ อย่างอ่อน เช่น ไฮโดรคอร์ติโซน ในบางรายมีสิวเห่อหลังลอกหน้า มักเกิดในวันที่ 3-9 หลังลอก และอาจเกิดซีสต์ตุ่มขาวขนาดเล็ก (milia)

         หลังลอกหน้าต้องหลีกเลี่ยงแสงแดด ทายากันแดด ถ้าผิวลอกเป็นขุยมากอาจทาครีมให้ความชุ่มชื้น ถ้ามีการติดเชื้อหรือการกำเริบของเริม ให้รีบกลับมาพบแพทย์




ขอขอบคุณข้อมูลจาก

5 ตำแหน่งศัลยกรรม กับช่วงอายุ

ศัลยกรรม



           การทำศัลยกรรมตกแต่งสามารถช่วยทำให้คุณดูดีขึ้นได้ก็จริง แต่การทำในช่วงที่อายุไม่เหมาะสม ก็อาจได้ผลลัพธ์ที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก หรือมีผลเสียมากกว่าผลดี ฉะนั้น สาว ๆ ที่กำลังคิดจะทำศัลยกรรมตกแต่ง หรือวางแผนไว้ว่าอยากจะเสริมตรงนั้นนิด ปรับตรงนี้หน่อย จึงควรทราบช่วงอายุที่เหมาะสมที่จะทำศัลยกรรมแต่ละประเภท โดยแบ่งออกเป็น 5 ตำแหน่ง ดังนี้ค่ะ
 
1. หน้าผาก

           ส่วนมากนิยมทำเพื่อลบรอยย่นลึก และริ้วรอยไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ช่วงอายุที่เหมาะสมคือ 35 ปีขึ้นไป
 
2. ตา

           ถ้า ทำตาสองชั้น ควรทำหลังจากอายุ 17 ปีขึ้นไป เพราะร่างกายจะเติบโตเต็มที่เมื่ออายุประมาณ 17 - 18 ปี ส่วนถุงใต้ตา ควรทำเมื่ออายุ 19 ปีขึ้นไป (ในกรณีที่มีปัญหาถุงใต้ตาชัดเจน) และรอยย่นรอบดวงตา ช่วงอายุที่เหมาะสมคือ 45 ปีขึ้นไป
 
3. จมูก

           การทำจมูก ควรทำเมื่ออายุยังน้อย เพราะจะได้ผลดีกว่าทำตอนอายุมาก สำหรับช่วงอายุที่เหมาะสมคือ 20 ปีขึ้นไป
 
4. ผิวหน้า

           นอก จากการลบริ้วรอยไม่พึงประสงค์ เช่น รอยจากสิว ไฝ ฝ้า กระ และจุดด่างดำต่าง ๆ แล้ว ยังมีริ้วรอยแห่งกาลเวลาที่ยากจะลบเลือน จนต้องพึ่งเทคโนโลยีอย่าง การดึงหน้า ช่วยนั้น มีช่วงอายุที่เหมาะสมคือ 45 ปีขึ้นไป
 
5. หน้าอก

           การ เพิ่มขนาดหน้าอก หรือการเสริมหน้าอก ควรทำเมื่ออายุ 18 ปีขึ้นไป เนื่องจากหน้าอกมีการพัฒนาเต็มที่แล้ว ส่วนการยกหน้าอกไม่ให้หย่อนยาน ช่วงอายุที่เหมาะสมคือ 45 ปีขึ้นไป

           รู้อย่างนี้แล้ว... ก็ไปทำตัวสวยสั่งได้ ที่มาพร้อมความปลอดภัย ได้ผล กันเลยค่ะ 


ขอบคุณข้อมูลจาก women.kapook.com
 

สารพัดเทคนิคเสริม เพื่อรักษาฝ้า

สารพัดเทคนิคเสริม... เพื่อรักษาฝ้า

สารพัดเทคนิคเสริม... เพื่อรักษาฝ้า (หมอชาวบ้าน)


          นอกจากการใช้ยาทารักษาฝ้าที่มีทั้งยาสูตรหลักที่ใช้กันมานาน และยาหรือครีมทารักษาฝ้าด้วยสารใหม่ ๆ ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว ยังมีเทคนิคเสริมเพื่อรักษาฝ้าหลายอย่างคือ 

  1. การลอกหน้าด้วยสารเคมี

          สารเคมี เช่น กรดไตรคลอโรอะซิติก กรดไกลคอลิก อาจช่วยลอกผิวหนังส่วนบนทำให้ฝ้าจางลงได้ แต่ต้องระวังข้อแทรกซ้อน เช่น อาจเกิดรอยดำ การติดเชื้อ และแผลเป็น การลอกหน้าทำให้เซลล์ผิวหนังหลุดลอกออกไปเร็วขึ้น ผู้ป่วยที่กินยาคุมกำเนิดไม่ควรลอกหน้า เพราะยาคุมทำให้เป็นฝ้าอยู่แล้ว จะยิ่งทำให้รอยคล้ำหลังลอกเข้มมากกว่าปกติ

          ผู้ที่เคยเป็นเริมที่ใบหน้า แพทย์อาจให้กินยาต้านไวรัสเริม 2 วันก่อนลอกต่อจนถึง 5 วันหลังลอก เพื่อลดการกำเริบของเริม หลังลอกหน้าต้องหลีกเลี่ยงแสงแดด ทายากันแดด ถ้าผิวลอกเป็นขุยมากอาจทาครีมให้ความชุ่มชื้น ถ้ามีการติดเชื้อหรือการกำเริบของเริม ต้องรีบกลับมาพบแพทย์

  2. การกรอผิวด้วยผงขัด (microdermabrasion)

          วืธีนี้จะเร่งการขจัดเซลล์ชั้นหนังกำพร้าให้ลอกหลุดเร็วขึ้น ได้ผลสำหรับฝ้าและกระที่อยู่ในชั้นตื้น ๆ สำหรับข้อดีของการกรอผิวด้วยผงขัด โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับการขัดหน้าชนิดลึก (dermabrasion) ที่เคยนิยมในยุคก่อน คือ การกรอผิวด้วยผงขัดไม่ต้องอาศัยการดมยา เทคนิคนี้ไม่เจ็บ ทำซ้ำได้บ่อย ทำง่าย และรวดเร็ว ผู้ป่วยกลับไปใช้ชีวิตปกติได้ทันที

          อย่างไรก็ตามการกรอผิวด้วยผงขัดมีข้อด้อย คือ ต้องทำซ้ำหลายครั้ง และผลการรักษามีประสิทธิภาพน้อย ข้อแทรกซ้อนของการกรอผิวด้วยผงขัดคือ อาการตาแดง กลัวแสง และน้ำตาไหล การกรอผิวด้วยผงขัดเพียงอย่างเดียวไม่ค่อยได้ผลในการรักษาฝ้า เพราะเทคนิคนี้ช่วยแค่ทำให้เม็ดสีในเซลล์ผิวหนังหลุดลอก

  3. การใช้ความเย็นจัด (Cryotherapy)

          การใช้ความเย็นจัด เป็นเทคนิคที่ใช้รักษาโรคผิวหนังหลายอย่าง พบว่าเซลล์ผิวหนังแต่ละชนิดถูกทำลายที่อุณหภูมิแตกต่างกัน คือ เซลล์ผิวหนัง (keratinocytes) ถูกทำลายที่อุณหภูมิ -50 องศาเซลเซียส ส่วนเซลล์สร้างเม็ดสี (melanocytes) ไวต่อความเย็นมาก ถูกทำลายที่อุณหภูมิเพียง -5 องศาเซลเซียส จึงมักพบผิวเป็นรอยขาวเมื่อใช้ความเย็นจัดในคนผิวสีเข้ม

          ใช้เทคนิคความเย็นจัดรักษาฝ้า แต่ต้องระวังข้อแทรกซ้อนที่มีได้ตั้งแต่

          ข้อแทรกซ้อนเฉียบพลัน ได้แก่ อาการปวดศีรษะ เจ็บแผล และเกิดตุ่มน้ำบริเวณที่ทำ

          ข้อแทรกซ้อนที่เกิดตามมา คือ มีเลือดออก ติดเชื้อ

          ข้อแทรกซ้อนที่เป็นอยู่ได้นาน คือ ผิวเป็นรอยดำ และมีการเปลี่ยนแปลงของการรับความรู้สึก

          ส่วนข้อแทรกซ้อนถาวร ได้แก่ ผมร่วง ผิวฝ่อ แผลเป็นคีลอยด์ แผลเป็น ผิวเป็นรอยขาว และเกิดเปลือกตาปลิ้น     

  4.การใช้เทคนิคประจุไฟฟ้า(iontophoresis)

          เมื่อ พ.ศ. 2536 มีงานวิจัยของคณะแพทย์ญี่ปุ่นระบุว่าใช้เทคนิคไอออนโตของวิตามินซีมารักษา ฝ้าและรอยดำจากการเกิดผื่นแพ้สัมผัส ทำให้รอยดำเหล่านี้จางลงได้บ้าง และช่วยให้ผิวหนังสดใสขึ้น

          มีงานวิจัยของแพทย์เกาหลีที่ยืนยันว่าการทำไอออนโตด้วยวิตามินซีช่วยรักษา ฝ้าได้จริง วิธีไอออนโตจัดเป็นเพียงเทคนิคเสริมในการรักษาฝ้า และในปัจจุบันยังไม่มีวิธีใด ๆ ที่จะรักษาฝ้าให้หายขาดได้ ผู้ที่ใช้เครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจ ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาตัวที่จะนำมาทำไอออนโต ผู้ที่มีบาดแผลที่ผิวหนัง หรือผิวหนังติดเชื้อบริเวณที่จะทำ และผู้ที่มีประวัติโรคลมชัก ห้ามรับการทำไอออนโต

  5. การใช้เทคนิคฉายแสง (Phototherapy)

          ยังไม่นิยมใช้เทคนิคฉายแสงในการรักษาฝ้า เพราะมีราคาสูง ผลการรักษายังไม่แน่นอน กลับเป็นซ้ำเมื่อหยุดการรักษา และอาจเกิดข้อแทรกซ้อนที่ใช้กันเช่น เลเซอร์และแสงความเข้มสูง (IPL) เทคนิคนี้มีข้อแทรกซ้อน คือ อาการเจ็บปวด ผิวแดง บวม และรอยดำหลังการอักเสบ
                               
          สารพัด เทคนิคเสริมเพื่อรักษาฝ้าที่กล่าวไปแล้ว ส่วนใหญ่เป็นวิธีที่มีค่าใช้จ่ายสูง ไม่สามารถรักษาฝ้าให้หายขาดไม่กลับเป็นซ้ำ และอาจมีผลแทรกซ้อนได้ จึงควรเลือกใช้ตามความเหมาะสม และต้องเข้าใจว่ายังไม่มีวิธีใดที่รักษาฝ้าให้หายขาด และไม่กลับเป็นซ้ำตลอดชีวิตได้    



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ศัลยกรรมความงาม มีที่มาจากไหน?




ศัลยกรรมความงาม มีที่มาจากไหน? (Lisa)



          ก่อนอื่นเราต้องหันไปดูอียิปต์โบราณ ซึ่งมีการศัลยกรรมจริง แต่ทำให้กับผู้ตายเท่านั้น

          อย่าง เช่น มัมมี่ขององค์รามเสสที่สองถูกใส่กระดูกและเมล็ดพืชอีกจำนวนหนึ่งเข้าไปในสัน จมูก เพื่อจะคงลักษณะเด่นของพระพักตร์หลังความตายไว้ให้คนรุ่งหลังจำหน้าได้ แต่ จุดเริ่มต้นของการศัลยกรรมเพื่อความงามจริง ๆ ไปอยู่อินเดีย เนื่องจากมีพบเอกสารภาษาสันสกฤตบรรยายขั้นตอนรักษาจมูกหรือหูของคนไข้ที่บาด เจ็บจากการสู้รบ (หรือเพราะโดนลงโทษมา) ในขั้นตอนนั้นก็มีทั้งการตัดผิวหนังจากส่วนอื่นมาโปะ เย็บผิวหนัง หรือมีกระทั่งการใส่ท่อไม้เพื่อให้หายใจได้ตอนรักษาตัว และทั้งหมดนี้ในอินเดียเค้าทำได้ตอน 600 ปีก่อนคริสตกาลเลยนะ เจ๋งมั้ยล่ะคะ!





ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ต้นแขนใหญ่หย่อนคล้อย กลับมาเฟิร์มได้

ต้นแขนใหญ่หย่อนคล้อยกลับมาเฟิร์มได้

ต้นแขนใหญ่หย่อนคล้อยกลับมาเฟิร์มได้ (Lisa)


           สาว ๆ หลายคนไม่กล้าใส่เสื้อแขนกุดเพราะไม่มั่นใจกับขนาดของต้นแขน มาดูกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วเราจะจัดการกับต้นแขนที่ขาดความกระชับนี้ได้อย่างไร

           สาเหตุ

  วัย: เซลล์ผิวนั้นเริ่มหย่อนคล้อยไปตามกาลเวลา ทำให้เนื้อบริเวณต้นแขน รวมทั้งส่วนอื่น ๆ ผลิตเซลล์ใหม่ได้น้อยหรือช้ากว่าเดิม ทำให้คอลลาเจนและอิลาสตินสร้างความยืดหยุ่นให้ผิวได้ไม่ดีเหมือนเดิม

  เซลลูไลต์: สิ่งที่ผู้หญิงทุกคนเข็ดขยาด แต่ก็ยากจะหลีกเลี่ยงไขมันส่วนเกินนั้นเมื่อสะสมที่บริเวณต้นแขนก็จะทำให้ เนื้อบริเวณนั้นหย่อนคล้อย เมื่อจับดูแล้วจะสังเกตได้ว่าเนื้อนิ่มเละ ซึ่งต่างจากกล้ามเนื้อที่จับแล้ว จะรู้สึกว่าเนื้อแน่นและแข็ง

           Slow-Fix

           ควรควบคุมอาหารโดยลดไขมันและออกกำลังกายด้วยท่าบริหารแขนทั้งหลาย เช่น ยกดัมบ์เบลล์โหนบาร์ รวมทั้งออกแรงแขนในการยกของให้มากขึ้น เพื่อให้ไขมันที่สะสมแปรเปลี่ยนเป็นกล้ามเนื้อแทน โดยในกรณีนี้หากใช้กำลังแขนมากเกินไป ต้นแขนก็จะใหญ่ได้เช่นกัน เพราะกล้ามเนื้อมีมากขึ้น ซึ่งก็ยากที่จะลดได้ ดังนั้นในการบริหารร่างกายจึงต้องอยู่บนความพอดี อย่าหักโหมออกกำลังกล้ามเนื้อแขนมากเกินไป

           Fast–Fix

  Body Thermage Thermage: คือการกระชับผิวส่วนหน้าท้องและลำตัว จากความหย่อนคล้อยที่เกิดขึ้นตามอายุ ซึ่งมีส่วนช่วยให้ผิวดูเนียนเรียบขึ้น ลดรอยแตกลายที่ผิวด้วยการเข้าไปสลาย เซลลูไลต์ เทอร์มาจ เป็นวิธีการรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ก่อให้เกิดบาดแผล โดยทั่วไปรักษาเพียงครั้งเดียวและสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ

           กลไกการทำงานคือเครื่องมือจะทำการส่งผ่านคลื่นความถี่วิทยุไปยังชั้นผิวที่ ลึกลงไปทำให้เกิดความร้อนในชั้นผิว ซึ่งจะไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องภายใต้ ชั้นผิวหนังทั้ง 3 ชั้นที่รวมถึงชั้นไขมัน ส่งผลให้ผิวค่อย ๆ ยกกระชับและเนียนเรียบขึ้นได้ตามธรรมชาติ สามารถรักษาได้กับผิวทุกประเภทและทุกสีผิว ในการรักษาจะใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง ผลการรักษาจะมีทั้งที่เห็นผลการยกกระชับเพียงเล็กน้อย ปานกลาง และชัดเจน โดยผิวจะยกกระชับขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงภายหลังการรักษาจนถึงระยะ 6 เดือนหลังการรักษา ตามปริมาณของคอลลาเจนที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ผลการรักษาสามารถคงอยู่ได้นานถึงหนึ่งปีหรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและอายุของแต่ละบุคคล

           เทอร์มา จ เป็นวิธีที่ปลอดภัย และไม่พบว่ามีผลข้างเคียงรุนแรง แต่เท่าที่มีการรายงาน ผลข้างเคียงจากการรักษาที่พบคืออาการบวมแดงในบริเวณที่ทำการรักษา ซึ่งอาการนี้จะหายไปได้หลังจากผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงหรืออาจใช้เวลาเป็นสัปดาห์สำหรับ ผลกระทบที่ที่รุนแรงกว่านั้น บางรายอาจมีอาการปวด มีรอยช้ำบวม หรือรู้สึกว่าผิวหนังไหม้ด้วย หรือที่รุนแรงที่สุดคือสภาพผิวหนังไม่เนียนเรียบ และนี่ก็คือความเสี่ยงที่ควรพิจาณาก่อนการรักษา

  สลายไขมันด้วยคลื่นอัลตร้าซาวนด์: เป็น การรักษาด้วยการใช้คลื่นอัลตร้าซาวนด์เข้าไปสลายไขมัน โดยใช้พลังงานแสงในปริมาณพอเหมาะเข้าไปสลายไขมันส่วนเกินใต้ผิวหนังชั้นนอก ระดับอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยนั้นเพียงพอที่จะทำให้ไขมันแตกตัวได้ จนร่างกายสามารถที่จะขับออกไปได้ตามธรรมชาติ แม้ว่าการรักษาจะเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรก แต่การรักษาหลาย ๆ ครั้งในช่วงระยะเวลามากกว่า 6 เดือน จะได้ผลอย่างมีประสิทธิภาพกว่า นอกจากนี้ ผลการรักษายังขึ้นอยู่กับปริมาณเซลลูไลต์และประเภทผิวหนังของผู้เข้ารักษา ซึ่งเป็นไปได้ที่อาจมีบางคนใช้เทคนิคการรักษานี้แล้วไม่ได้ผล จึงควรปรึกษาแพทย์ให้ดีก่อนทำการรักษา




ขอขอบคุณข้อมูลจาก

คอหย่อนคล้อย อย่าคอยให้สายเกินแก้

ศัลยกรรม

คอหย่อนคล้อย อย่าคอยให้สายเกินแก้
(Lisa)

           บางครั้งสาว ๆ อาจลืมไปว่าผิวหนังที่ลำคอนั้นมีความบอบบางเช่นเดียวกับผิวหน้า จึงมักลืมดูแลกันบ่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่คอเป็นส่วนที่สังเกตเห็นได้ง่ายที่สุด เมื่อเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น แต่หากมันเริ่มเกิดขึ้นกับคุณแล้ว เดี่ยวนี้ก็มีวิธีการรักษาให้เลือก

สาเหตุ

           อายุ เมื่อคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวขาดความยืดหยุ่น ก็เป็นธรรมดาที่ผิวหนังจะหย่อนคล้อยไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก

           ขาดการบำรุง เป็น เรื่องธรรมดาที่ผิวลำคอของคุณจะหย่อนคล้อยไปตามกาลเวลา แต่คงไม่ดีแน่ ถ้าคอคุณมีริ้วรอยเหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร เพื่อป้องกันไม่ให้อาการนี้เกิดขึ้นกับคุณ ทุกครั้งที่บำรุงผิวหน้าด้วยครีมและมอยสเจอไรเซอร์ทั้งหลาย คุณต้องทาที่ลำคอด้วย ซึ่งแสงแดด ก็เป็นปัจจัยตัวฉกาจที่ทำให้ผิวย่นก่อนวัย ฉะนั้น ต้องไม่ลืมเด็ดขาดที่จะทาครีมกันแดดที่คอด้วย จำไว้ว่าทั้งหน้าและคอควรจะได้รับการดูแลควบคู่กันไป คงไม่มีใครอยากหน้าตึง แต่ผิวที่คอย่นแน่นอน เพราะฉะนั้นเริ่มป้องกันไว้ตั้งแต่วันนี้ดีกว่า

Fast-Fix

            Nefertiti Lift เป็น วิธีที่แพร่หลายซึ่งทำโดยการฉีดสารโบท็อกซ์เข้าไปที่ผิวหนัง บริเวณแนวกราน และลำคอ ซึ่งจะช่วยคลายการดึงรั้งของกล้ามเนื้อขากรรไกร และเหนียงคอช่วงรอยต่อกับใบหน้าที่เรียกว่า กล้ามเนื้อพลาทีสมา (Platysma Muscles) ซึ่งกล้ามเนื้อนี้จะดึงผิวหน้าบริเวณขากรรไกร คาง และคอให้หย่อนคล้อยลงตามวัยที่มากขึ้น แต่สารนี้จะเข้าไปทำให้กล้ามเนื้อพลาทีสมาไม่ทิ้งตัวลง จึงช่วยทำให้หน้าและคอกระชับดึงขึ้นได้

           ซึ่งในการทำแต่ละครั้งจะใช้เวลาไม่นานนัก ทำเสร็จแล้วไม่ต้องพักฟื้น และสามารถออกไปทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ตามปกติเลย

            Elastra-Lift ใช้ หลักการสร้างความร้อนแบบเฉพาะเจาะจงในบริเวณที่ต้องการ โดยใช้พลังงานแสงอันฟราเรด สร้างความอุ่นที่พอเหมาะให้เกิดเฉพาะผิวชั้นใน เพื่อฟื้นฟูในระดับเซลล์ผิว ในขณะที่ผิวด้านบนได้รับการปกป้องด้วยความเย็นตลอดเวลา อินฟราเรดก็จะปล่อยพลังงานแสงออกมาเป็นชุด ๆ อย่างรวดเร็ว เพื่อให้คอลลาเจนในผิวชั้นหนังแท้ร้อนขึ้นจนคอลลาเจนบาง่วนหดตัว และกระตุ้นให้ร่างกายซ่อมแซมผิวตามธรรมชาติ และสร้างคอลลาเจนขึ้นมาทดแทน และจะมีระบบทำความเย็นคอยรักษาอุณหภูมิที่ผิวด้านบน ที่ไม่ต้องการให้เกิดความร้อนระห่างทำ จึงไม่ต้องใช้ยาชาโดยทั่วไปจะใช้เวลาทำประมาร 30 นาที หลังจากทำเสร็จแล้ว สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ จะเริ่มเห็นผลค่อนข้างเร็ว เต็มที่ใช้เวลาประมาณ 4 เดือน ที่ร่างกายจะสร้างคอลลาเจนทดแทนอย่างสมบูรณ์ แต่ควรกลับไปทำซ้ำทุกเดือน เดือนละ 2-3 ครั้ง

            RF Lifting เป็น เทคโนโลยีที่นำเอาพลังงานอินฟาเรดและพลังงานคลื่นวิทยุ ที่เรียกว่า Bipolar Radiofrequency มาพัฒนาร่วมกัน จนได้พลังงานใหม่ ที่ทำงานลึกลงสู่ผิวชั้นหนังแท้ให้เริ่มสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน โดยจะส่งลำแสงผ่านเข้าไปทำให้เกิดความอบอุ่นใต้ชั้นผิวที่ได้ปรับอุณหภูมิ ให้เหมาะกับผิวคนไข้ ทำให้เซลล์ผิวสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ ช่วยยกกระชับผิว เติมเต็มร่องลึกในผิว และลดปัญหาผิวหย่อนคล้อย จึงเหมาะกับผู้ที่ไม่อยากเสี่ยงกับศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า และผลการรักษามักอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี

           Gentle YAG เป็นเลเซอร์ที่ปล่อยพลังงานที่มีความยาวคลื่นสูง ฉายลงไปบนบริเวณที่ต้องทำการรักษาเป็นส่วน ๆ จนทั่ว คลื่นความยาวสูงนี้สามารถลงไปสู่ผิวชั้นที่ลึกได้ โดยไม่ทำลายผิวชั้นบน เพื่อส่งพลังงานความร้อนไปยังชั้นหนังแท้ กระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นใยคอลลาเจนใหม่ คืนสภาพผิวให้เต่งตึงเรียบเนียบและกระชับชื้น ใช้เวลารักษาประมาณ 10-20 นาที อาจจะเกิดรอยแดงเล็กน้อย ต้องทำซ้ำต่อเนื่องอีก 4-5 ครั้ง ในทุก ๆ หนึ่งเดือนจึงจะเห็นผลชัดเจน แต่ไม่จำเป็นจะต้องพักฟื้นหรือดูแลใด ๆ เป็นพิเศษหลังทำ




ขอขอบคุณข้อมูลจาก


Vol.12 No.17 11 พฤษภาคม 2554

ฉีด โบท็อกซ์ ยกกระชับเต้า

ฉีด โบท็อกซ์ ยกกระชับเต้า

ฉีด โบท็อกซ์ ยกกระชับเต้า (ไทยโพสต์)


          ผู้หญิงที่เริ่มมีอายุย่อมเลี่ยงไม่ได้กับทรวดทรงที่เริ่มหย่อนคล้อย ผิวพรรณที่เคยเต่งตึงเริ่มปรากฏริ้วรอย
สมัย ก่อนสาวใหญ่ที่อยากให้หน้าอกดูเต่งตึงมีทางเลือกเดียว คือ ใช้เทคนิคการเย็บตรึงเต้านม ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเป็นหลักแสนบาท ใช้เวลาพักฟื้นหลายสัปดาห์ และอาจสูญเสียความรู้สึกบริเวณหัวนมได้

          ล่าสุดมีรายงานข่าวแจ้งว่า มีการบำบัดแบบใหม่สำหรับคนที่อยากให้เต้าดูเต่งตึงไม่หย่อนคล้อยไปตามอายุ คือ ฉีดโบท็อกซ์ยกกระชับเต้านม ซึ่งไม่มีผลข้างเคียงและไม่ต้องพักฟื้นเทคนิคนี้บุกเบิกโดยแพทย์ชาวไทยคน หนึ่ง เปิดตัวเป็นครั้งแรกในงานการประชุมระดับโลกว่าด้วยศัลยกรรมตกแต่งและชะลอ ความชราที่มอนติคาร์โลเมื่อปี 2552

          แพทย์หญิงซิซีเลีย เทรเกียร์ แห่งคลินิกดูแลผิวพรรณวิมโพล ที่ถนนฮาร์เลย์ กรุงลอนดอน ได้นำเทคนิคนี้มาใช้ โดยบอกว่าการฉีดโบท็อกซ์รอบ ๆ เต้านมจะช่วยให้ผิวเต่งตึง ลบรอยเหี่ยวย่นได้หลายคนสงสัยว่า โบท็อกซ์ช่วยยกกระชับเต้านมได้จริงหรือ อีเลน ฮิล วัย 46 ชาวเซอร์เรย์ ได้เข้ารับการบำบัดนี้เป็นคนแรก ๆ เมื่อเดือนที่แล้ว เธอมีลูก 2 คน หย่าร้างกับสามี รู้สึกไม่พอใจกับทรวดทรงของตัวเอง ลูกสาวของเธอกำลังจะแต่งงานในเดือนหน้า และเธอหวังว่าจะเจอชายคนใหม่หลังจากอยู่คนเดียวมาหนึ่งปี เธอจึงอยากทำให้ตัวเองดูดี

          "เมื่อหกเดือนก่อนฉันมองตัวเองในกระจก เห็นว่านมของฉันมันหย่อนคล้อยแล้ว ฉันเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แต่ตัวการจริง ๆ คงเป็นเพราะอายุมากกว่า เมื่อฉันย่างวัย 40 อะไร ๆ ก็เริ่มคล้อย" เธอเคยไปหาหมอเทรเกียร์เพื่อรับฮอร์โมนบำบัดอยู่แล้ว และฉีดโบท็อกซ์ที่หน้ามานาน เธอจึงไม่กลัวที่จะฉีดโบท็อกซ์ที่เต้านม "ฉันอยากให้เต้านมแลดูเต่งตึง เพื่อให้ตัวเองรู้สึกมั่นใจในตัวเองยิ่งขึ้น"

          คุณหมอได้ฉีดสารชีวพิษโบทูลินัมที่ว่านี้เข้าไปในผิวหนังของทรวงอกและบริเวณ โดยรอบ แต่ไม่ใช่การฉีดเข้าที่กล้ามเนื้อ วิธีนี้คนไข้จะเจ็บน้อยกว่า กล้ามเนื้อจะไม่ "ถูกแช่แข็ง" และไม่สูญเสียการรับรู้ความรู้สึกขั้นตอนการทำเริ่มด้วยการทาครีมยาชาเพื่อ ให้ผิวหนังเกิดการการชา จากนั้นฉีดโบท็อกซ์โดยรอบและข้างใต้ของเต้านม ไล่ตั้งแต่กลางทรวงอกไปจนถึงรักแร้ รวมทั้งบริเวณป้านนมเพื่อลบเลือนรอยเหี่ยวย่นและทำให้หัวนมชูชัน "วิธีนี้ไม่ทำให้เจ็บปวด ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น" คุณหมอบอก "คุณสามารถใส่เสื้อ แล้วกลับไปทำงานต่อได้เลย"

ฉีด โบท็อกซ์ ยกกระชับเต้า

          ทำไมโบท็อกซ์สามารถช่วยยกกระชับเต้านมได้ ?

          สารโบท็อกซ์จะทำให้กล้ามเนื้อเล็ก ๆ ในผิวหนังและเนื้อเยื่อเกิดการหดตัว ทำให้ผิวหนังเต่งตึงขึ้น ดูราบเรียบขึ้น ซึ่งจะเริ่มเห็นผลในทันทีและปรากฏผลชัดเจนในอีก 2-3 วันต่อมาถ้าจะให้ได้ผลดีที่สุด แนะนำให้คนไข้ไปฉีดเพิ่มอีกครั้งภายใน 3 สัปดาห์ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็น

          แพทย์หญิงเทรเกียร์บอกว่า คนไข้จะมีหน้าอกที่ดูอวบอิ่มขึ้น ผิวดูเนียนขึ้น หัวนมและป้านนมดูดีขึ้น เต้านมจะยกกระชับขึ้นราว 2 เซนติเมตร และดูอวบอิ่มขึ้น 10% "ฉันรู้สึกว่าเต้านมเต่งตึงขึ้น ผิวหนังดูเรียบขึ้นภายใน 10 นาที หัวนมของฉันกระชับขึ้นมา 1 เซนติเมตร" อีเลนบอก

          อย่างไรก็ดี แพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง แพทริก มัลลุกชี สมาชิกสมาคมศัลยแพทย์เสริมความงามอังกฤษ วิจารณ์ว่า โบท็อกซ์ช่วยให้ผิวหนังราบเรียบ แต่ไม่ได้ช่วยขยายหรือยกกระชับ หรือทำให้เต้านมอวบอูมขึ้น และวิธีนี้ใช้ไม่ได้กับผู้หญิงทรงโต ผู้หญิงที่มีขนาด 34 ซี จะใช้เทคนิคนี้ไม่ได้ผล เพราะเต้านมที่ใหญ่จะถ่วงหนัก สรุปว่าออกกำลังกายน่าจะดีที่สุดต่อร่างกายและปลอดภัยกว่าวิธีไหน ๆ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

กำจัดจุดอ่อนคางสองชั้น

ศัลยกรรม

กำจัดจุดอ่อนคางสองชั้น
(Lisa)

          คางสองชั้น หรือที่เรียกว่า "เหนียง" นั้น คงไม่ใช่ส่วนของร่างกายที่น่าปรารถนาสำหรับผู้หญิงนัก ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากเซลลูไลต์ ผิวหนังที่เริ่มย่อนคล้อย หรือแม้แต่กรรมพันธุ์ก็มีส่วน แต่ไม่ต้องกังวลไป เดี๋ยวนี้มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาช่วยจัดการกับปัญหานี้ได้

Fast-Fix

เทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการสลายไขมันใต้คางและยกกระชับผิวมีดังนี้

          Vaser หรือ Vibration Amplification of Sound Energy at Resonance เป็นการสลายไขมันเฉพาะส่วน เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจาก Ultrasound ขั้นสูงที่สามารถเลือกทำลายเป้าหมายคือไขมันอย่างจำเพาะเจาะจง (Lipo Selection) โดยไม่ทำอันตรายต่อเนื้อเยื่อข้างเคียง เช่น เส้นประสาท เส้นเลือด และเนื้อเยื่อเกี่ยวพันอื่น ๆ ช่วยให้รูปร่างได้สัดส่วนหลังการรักษาเพียงครั้งเดียว มีรอยช้ำน้อย ฟื้นตัวเร็ว ผิวเนียนเรียบ และกระชับด้วยเลเซอร์สลายไขมัน และอัลตร้าซาวนด์ที่จะเข้าไปทำลายเส้นประสาท หรือเนื้อเยื่อบริเวณโดยรอบ ส่วนเซลล์ไขมันที่ถูกทำลายแล้ว จะสลายเป็นน้ำมันไหลออกให้เห็นได้ทันที

          ส่วน ที่เหลือจะถูกกำจัดออกจากร่างกายตามกระบวนการทางธรรมชาติ และหลังจากที่รักษาด้วยเลเซอร์สลายไขมัน ผิวบริเวณที่รักษาจะยกกระชับขึ้น เนื้อไม่แตกเป็นลอนคลื่น เหมาะกับการสลายไขมันบริเวณที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ด้วยการไดเอ็ตธรรมดา Vaser นั้นสลายไขมันได้มากพอ ๆ กับวิธีการดูดไขมัน แต่อ่อนโยนและมีผลข้างเคียงน้อยกว่า คนไข้จึงฟื้นตัวได้เร็วกว่าการดูดไขมันทั่วไป

          Titan เทคโนโลยีใหม่ของการกระชับผิว เปรียบเสมือนการทำศัลยกรรมยกหน้าหรือกระชับผิว แต่จะใช้แสงอินฟราเรดผ่านลงไปยังชั้นผิวหนังที่อยู่ด้านล่างสุด เพื่อให้เกิดการทำงานภายใต้โครงสร้างผิว ที่คอลลาเจนจะหดและกระชับตัวขึ้น เป็นผลให้ส่วนที่ต้องการรักษานั้นดูเรียวเล็กลง มีการควบคุมความร้อนให้เกิดที่ภายใต้ผิวหนัง โดยผิวหนังชั้นนอกจะทาเจลเย็นไว้ ซึ่งความร้อนภายในอาจทำให้เกิดรอยแดงได้ แต่เมื่อยกระชับผิวรอยแดงก็จะหายไป ใช้เวลาประมาณ 20-60 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำการรักษาและความหย่อนคล้อยของผิว เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรก และในการทำครั้งต่อไปควรเว้นระยะ 20 วันถึงหนึ่งเดือน ส่วนครั้งต่อไปควรเว้น 15 วัน เพื่อให้คอลลาเจนในผิวนั้นตอบสนองการรักษาได้ดีขึ้น อย่างค่อยเป็นค่อยไป ในระหว่างนี้ อาจมีผลข้างเคียง เช่น รอยแดง หรือรอยช้ำกับผิวหนังบ้าง ซึ่งผลการรักษาจะอยู่ได้ราว 3-6 เดือน และควรทำทุก ๆ 3 ปี จึงจะเห็นผลอย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว

Laser Lipolysis หรือ Smart Lipo

          เป็น การแก้ไขคาง 2 ชั้น ด้วยการใช้ท่อเลเซอร์เส้นเล็ก ๆ ขนาดเท่าหัวปากกาที่มีขนาดเล็กมากจนไม่ต้องผ่าตัด โดยเลเซอร์จะเข้าไปสลายไขมันบริเวณขากรรไกร หลังจากนั้นก็จะใช้ท่อเล็กๆ เท่าเข็มดูดไขมันออกมาโดยตรง ข้อดีคือนอกจากเลเซอร์จะทำลายไขมันแล้ว ยังช่วยให้ผิวเรียบเนียน และไม่เป็นคลื่นอีกด้วยแม้ว่าจะสลายไขมันไปแล้ว เหมาะกับผู้ที่มีไขมันส่วนเกินไม่มาก ข้อควรระวังคือในบางรายอาจรู้สึกเจ็บในเนื้อเยื่อ สามารถทำซ้ำได้ทุก 2-3 เดือน

Meso Lipo

          เป็น การฉีดสารสลายไขมันเข้าสู่ขั้นผิวหนัง ที่มีไขมันอยู่ด้วยเข็มดิจิตอลเล็ก ๆ โดยจะฉีดเป็นจุดถี่ ๆ ในบริเวณที่ต้องการสลายไขมัน แต่วิธีนี้จะต้องทำหลายครั้ง ประมาณ 5 ครั้งขึ้นไป




ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Vol.12 No.19 25 พฤษภาคม 2554